1.เรือใบไร้ ฮาลันด์
แมนฯ ซิตี้ ประสบกับปัญหาขาด เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าคนสำคัญซึ่งบาดเจ็บ และไม่มีชื่อติดโผตัวสำรอง
สรุปผลบอล : แมนซิตี้ คมกว่าเชือด เชลซี-อาร์เซน่อล กินนิ่ม (20 เม.ย. 67)
มองบวก! เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พอใจ เชลซี สู้ แมนซิตี้ ได้ดีแม้ตกรอบ เอฟเอ คัพ
รับไม่ได้! เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โวยลั่น แมนฯ ซิตี้ ควรได้ฟัด เชลซี วันอาทิตย์
ฮาลันด์ กองหน้าทีมชาติ นอรเวย์ ถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมที่แชมป์เก่าดวลลูกโทษแพ้ เรอัล มาดริด คาบ้านโดยมี ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ถูกส่งลงเล่นแทน และในที่สุดหัวหอกร่างยักษ์ก็พลาดเกมสำคัญที่ เวมบลีย์
รวมแล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่สแปนิชเปลี่ยนโผตัวจริงสี่ตำแหน่งจากเกมกลางสัปดาห์โดยเลือกใช้งาน สเตฟาน ออร์เตก้า เฝ้าเสาแทน เอแดร์ซอน พร้อมทั้งส่ง จอห์น สโตนส์ , นาธาน อาเก้ และ อัลวาเรซ ลงเล่นก่อนหน้า รูเบน ดิอาส และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่นั่งสำรอง
ADVERTISEMENT
2. สิงห์บลูส์สุดคึกปรับโผรายเดียว
เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ซึ่งนัดก่อนเปิดบ้านถล่มแหลก เอฟเวอร์ตัน 6-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนโผตัวจริงแค่รายเดียวเท่านั้น
ADVERTISEMENT
ผู้จัดการทีมอาร์เจนไตน์เลือกปรับทัพในแดนกลางด้วยการใช้งาน เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ลงเล่นก่อนหน้า มิไคโล มูดริค ที่ถูกจับเป็นตัวสำรอง ขณะที่ โคล พาลเมอร์ ได้เจอกับทีมเก่าอีกนัดหลังย้ายออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงซัมเมอร์
3. พอชเอาอยู่
ถือเป็นเกมที่ไม่ง่ายเลยสำหรับ แมนฯ ซิตี้ เพราะช่วงต้นเป็น เชลซี ที่บุกเข้าใส่จนทำให้แชมป์เก่าปั่นป่วนไปหลายจังหวะเหมือนกัน และต้องอาศัยการวางบอลยาวตอบโต้ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของ เรือใบสีฟ้า เลยแม้แต่น้อย
กระทั่งพ้น 20 นาทีแรก ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ก็เริ่มตั้งลำได้ และพลิกสถิติกลับมาครองบอลได้เหนือกว่าคู่แข่ง แต่ปัญหาคือเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่พวกเขายิงบอลไม่เข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 45 นาทีแรก แถมเกือบเสียประตูให้ สิงห์บลูส์ หลายหนอีกด้วย
จบครึ่งแรก ต้องยอมรับว่า เชลซี ต่อกรกับ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างน่าดูชมแม้จะเป็นรองในด้านการครองบอล 60:40% แต่ทีมของ พอช ได้ง้าง 4 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้ากรอบไม่ได้เลยจากโอกาส 5 ครั้ง
แน่นอนว่าสถิติแบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยสำหรับยอดทีมจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งขึ้นชื่อในด้านเกมรุก แต่พวกเขาเคยส่งบอลเข้ากรอบในเกมครึ่งแรกไม่ได้เช่นกันนัดต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นหนล่าสุดที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า มีผลงานน่าตกใจเยี่ยงนี้
กระนั้นก็ดี สุดท้ายในเกมดังกล่าว เรือใบสีฟ้า สามารถเอาชนะ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ได้ 2-0 จากการเหมายิงของ ฮาลันด์ ในนาทีที่ 71 และ 85 แต่ทว่านัดนี้ที่ เวมบลีย์ ยอดดาวยิงผมสลวยไม่มีเอี่ยวเนื่องจากเดี้ยงมาจากเกมบู๊กับ ราชันชุดขาว
4. วีเออาร์มีไว้ทำไม?
ไม่ว่าจะยังไง ผู้ตัดสินย่อมหนีไม่พ้นถูกวิจารณ์ที่ไม่มอบลูกโทษให้กับ เชลซี ในครึ่งหลังถึงสองหนโดยครั้งแรกเกิดขึ้นจากลูกฟรีคิกที่ โคล พาลเมอร์ ยิงไปโดนแขนของ แจ็ค กรีลิช ที่ตั้งเป็นกำแพงในเขตโทษ แต่ท่านเปาเมินให้ลูกโทษกับ สิงห์บลูส์ อีกทั้ง เดวิด คูท ผู้ตัดสินวีเออาร์นระบุว่าไม่สมควรเป็นลูกโทษเช่นกันซึ่งอาจเป็นเพราะเขามองว่าปีกทีมชาติ อังกฤษ ไม่มีเจตนาทำแฮนด์บอล
เท่านั้นไม่พอ ถัดมากองเชียร์ เชลซี น่าจะหงุดหงิดเป็นซ้ำสองเมื่อ นิโคลัส แจ็คสัน หลุดเดี่ยวแล้วโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ ไล่กวดก่อนยกแขนกระแทกดาวยิงทีมชาติ เซเนกัล ล้มในเขตโทษ แต่ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ยังใจแข็งไม่เลิก และเลือกไม่เป่าฟาวล์ซึ่งเขาอาจพิจารณาว่าไม่ได้รุนแรงมากพอจนถึงกับสมควรเป็นลูกโทษ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สาวกทีมเมืองหลวงย่อมไม่เห็นด้วยกับผู้ตัดสินทั้งสองเหตุการณ์อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น กองเชียร์ สิงห์บลูส์ น่าจะหงุดหงิด แจ็คสัน ไม่น้อยที่เกมนี้มีโอกาสทะลุไปยิงประตูพาทีมออกนำสองครั้งเห็นๆ แต่ทำไม่สำเร็จโดยครั้งแรกอุตส่าห์แตะบอลหลบ ออร์เตก้า นายทวาร แมนฯ ซิตี้ อย่างสวยได้แล้ว แต่ดันเงื้อง่าราคาแพงเลยทิ้งโอกาสทองให้หลุดลอยไป
จากนั้นช่วงครึ่งหลัง แจ็คสัน ซึ่งมีความเร็วเป็นอาวุธร้ายหลุดเดี่ยวอีกรอบ แต่ซัดไปให้ ออร์เตก้า เซฟได้จนต้องถือว่าหาก ลิเวอร์พูล มี ดาร์วิน นูนเญซ ที่ทำให้สาวก เดอะ ค็อป อ่อนอกอ่อนใจ แฟนทีมเมืองหลวงก็มีดาวยิงแอฟริกันที่คลำเป้าได้อย่างน่าผิดหวังพอกันอยู่ในทีม
5. ซิลวา กู้ชื่ออย่างไว
ในเกมบู๊กับ ราชันชุดขาว แบร์นาร์โด้ ซิลวา โดนถล่มไม่ใช่น้อยเนื่องจากสังหารลูกโทษพลาดจนเป็นการจุดชนวนให้ เรือใบสีฟ้า ตกรอบแปดทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งๆที่แชมป์เก่าได้เปรียบแล้ว
แต่ในที่สุด ปีกทีมชาติ โปรตุเกส แก้ตัวได้อย่างไวด้วยการเป็นฮีโร่ซัดประตูโทนพา แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงชนะเลิศถ้วย เอฟเอคัพ ได้ แถมเกิดขึ้นอย่างถูกที่ถูกเวลาในนาทีที่ 84 ด้วยซึ่งทำให้ เชลซี มีเวลาไม่มากพอที่จะทวงสกอร์คืนแม้จะเป็นหนึ่งเกมในซีซั่นนี้ที่นักเตะของ โปเช็ตติโน่ โชว์ฟอร์มกันได้ไม่เลวเลย
อย่างไรก็ดี เอาเข้าให้จริงๆต้องยอมรับว่า แมนฯ ซิตี้ ยังเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่เชื่อใจได้ต่อการคว้าผลลัพธ์เหนือคู่แข่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาเพิ่งล้ามาจากเกมกลางสัปดาห์ชนิดที่ต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วย แถมปราชัยอีกต่างหาก แต่ลูกทีมของ กวาร์ดิโอล่า พิสูจน์ให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจที่ยอดเยี่ยม และเอาตัวรอดไปได้แม้อาจไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบของพวกเขาสักเท่าไหร่
จบ 90 นาทีที่ เวมบลีย์ แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าในแง่การครองบอล 62:38% และได้ยิงมากกว่า 14:10 ครั้ง แต่เกมนี้ เชลซี ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 5:3 ครั้งซึ่งบ่งบอกได้ว่าหากดาวยิงของ สิงห์บลูส์ มีความคมเป็นที่ตั้งมากกว่านี้ บางที เรือใบสีฟ้า อาจตกรอบฟุตบอลถ้วยสองรายการในสองเกมติดต่อกันก็เป็นได้
แต่อย่างที่บอก ทีมระดับคุณภาพอย่าง แมนฯ ซิตี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหากไม่แน่จริงพวกเขาไม่ยืนพื้นประสบความสำเร็จมานานขนาดนี้เนื่องจากมันเป็นเกมที่ 29 ติดต่อกันในทุกรายการแล้วที่พวกเขาแพ้ไม่เป็น และเป็นสถิติใหม่ของสโมสรด้วย (ชนะ 23 เสมอ 6)
สำหรับเกมเมื่อวันพุธ แม้ แมนฯ ซิตี้ จะพ่าย เรอัล มาดริด แต่พวกเขาเสมอในเวลาโดยกฏเกณฑ์ของเกมลูกหนังไม่นับรวมการแพ้ดวลลูกโทษเข้าไปด้วย ขณะที่ โรดรี้ เพิ่มสถิติส่วนตัวไม่แพ้เกมที่เขาได้ลงบู๊ติดต่อกันเพิ่มเป็นนัดที่ 68 แล้วกับทั้งสโมสรและทีมชาติ
https://unlimit365d.net/
https://unlimit365d.com/
สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufa365d.ibetauto.com/ufa365d/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม