โม ซาลาห์ ทำสถิติ-หงส์ยังตายยากสมฉายา คิง ออฟ คัมแบ็ก! เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจจากเกม ลิเวอร์พูล บุกเฉือนหวิว คริสตัล พาเลซ ขึ้นจ่าฝูงพรีเมียร์ฯ (ชั่วคราว)

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล นำทัพ “หงส์แดง” แซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ชั่วคราว หลังออกไปเฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ ได้อย่างสุดระทึก 2-1 ถึงถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม

หลังลงเล่นไปแล้ว 16 นัดนั้น ลิเวอร์พูล เก็บได้ 37 คะแนน เฉือน อาร์เซน่อล 1 แต้ม ก่อนที่ “เจ้าปืนใหญ่” จะออกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ทีมฟอร์มแรงในช่วงดึกคืนวันเสาร์นี้

จากชัยชนะของ “หงส์แดง” มี 5 ประเด็นน่าสนใจดังนี้

1. อลีสซง หายไวเกินคาด

ADVERTISEMENT

อลีสซง เบ็คเกอร์ โกลทีมชาติบราซิล ไม่ได้ลงเล่นให้ “หงส์แดง” ในสามเกมล่าสุด เพราะบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขานัดออกไปเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย

ADVERTISEMENT

ตอนแรกคาดว่า จะคัมแบ็กช่วยทีมได้ในเกมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม อลีสซง หายเจ็บไวเกินคาด และได้ออกสตาร์ตตัวจริงเกมนี้ ขณะที่ จาเรลล์ ควอนซาห์ ปราการหลังดาวรุ่ง ก็พลิกโผได้โอกาสลงตัวจริงมายืนคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แทน

อิบราฮิมา โกนาเต้

2. วีเออาร์ช่วยเซฟหงส์ไม่เสียจุดโทษ

หลังเล่นไปราวครึ่งชั่วโมงขณะที่ทั้งสองทีมกำลังสู้กันได้อย่างสูสีนั้น “หงส์แดง” โดนเป่าให้เสียจุดโทษ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็ต้องเสียใบเหลืองอีกด้วยจากการไปทำฟาวล์ใส่ เอดูอาร์

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสิน วีเออาร์ เห็นแย้งหลังมองว่า วาตารุ เอ็นโด โดน วิลล์ ฮิวจ์ส ทำฟาวล์ก่อนเสียบอล และเมื่อ แอนดี้ แมดลี่ย์ กรรมการในสนามไปดูภาพจากจอทีวีก็ตัดสินใจเปลี่ยนคำ

ตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ และยกเลิกใบเหลืองของ ฟาน ไดค์ ด้วย

กระนั้นก็ดี ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ต้องมาเสียประตู หลัง ควอนซาห์ ไปเตะใส่ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า จนเสียจุดโทษ และ มาเตต้า ก็รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 57

3. ใบแดงจุดเปลี่ยนสำคัญ

เกมนี้ คริสตัล พาเลซ มีโอกาสที่จะเก็บคะแนนไว้ได้หลัง มาเตต้า ยิงจุดโทษให้ทีมนำ 1-0 น.57 แต่ต้องมาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมหลัง จอร์แดน อายิว รับสองเหลืองกลายเป็นใบแดง

โดนไล่ออกน. 75

หลังจากเหตุการณ์นั้นอีกแค่นาทีเดียว ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูตีเสมอจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนที่ทีมเยือนจะอาศัยผู้เล่นมากกว่าบุกหนักเข้าใส่ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็มาซัดประตูชัยน.90+1

4. ซาลาห์ ทำสถิติ

ก่อนลงเล่นเกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอียิปต์ ยิงให้ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการไปแล้ว 199 และขาดอีกแค่ลูกเเดียวเท่านั้นก็จะเข้าไปอยุ่ในทำเนียบนักเตะคนที่ 5 ของสโมสรที่ทำได้

ถึงหลัก 200 ประตู

ซาลาห์ เป็นคนยิงตีเสมอนาทีที่ 76 ทำให้เข้าไปสู่ทำเนียบร่วมกับ เอียน รัช (346), โรเจอร์ ฮันท์ (285), กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน (241) และ บิลลี่ ลิดเดลล์ (228)

นอกจากนั้น ซาลาห์ ยังทำสถิติยิงใน พรีเมียร์ลีก ถึงหลัก 150 ประตูได้อีกด้วย โดยทำได้สองลูกสมัยที่เล่นให้กับ เชลซี

5. หงส์ยังตายยาก

ลิเวอร์พูล ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเป็นจอมคัมแบ็ก หลังกลับมาเก็บคะแนนได้อีกครั้งหลังโดนคู่แข่งนำไปก่อน และเป็นทีมที่ทำได้มากสุดในบรรดาทีม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

การกลับมาเก็บได้สามคะแนนที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ทำให้ซีซั่นนี้ “หงส์แดง” เป็น คิง ออฟ คัมแบ็ก ตัวจริง โดยเก็บได้แล้วถึง 18 แต้มจากการโดนคู่แข่งนำไปก่อน

ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รั้งอันดับสองกับการกลับมาเก็บได้ 9 คะแนน ตามมาด้วย แอสตัน วิลล่า, เชลซี และ ไบรท์ตัน ที่ทำได้ 8 คะแนนเท่ากัน

UFA365 เว็บพนันออนไลน์


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufa365d.ibetauto.com/ufa365d/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @ufa365d